YN2-TECH กับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 บทความที่ 2
ต่อจากบทความที่ 1 ในบทความที่ 2 นี้เราได้สัมภาษณ์คุณ Nakamura จาก YN2-TECH (THAILAND) CO., LTD. เกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจในต่างประเทศหลังจากนี้
โปรเจกต์ออนไลน์นี้สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เรารู้อย่างชัดเจนว่าควรเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านใด
คุณ Nakamura จาก YN2:โปรเจกต์นี้มีบทบาทในการสนับสนุนการเริ่มต้นกระบวนการผลิตผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตามหากไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนที่มีความเกี่ยวข้องโปรเจกต์นี้ก็คงไม่สำเร็จและเป็นเพราะเราได้สร้างความไว้วางใจจากคุณ Nishimura และพนักงานของบริษัท COSMOWAVE รวมไปถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานบริษัท YN2 และ COSMOWAVE ในประเทศอินเดีย ทำให้โปรเจกต์นี้สำเร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งโปรเจกต์ระหว่างบริษัทในต่างประเทศนั้นหากชิ้นส่วนในการติดตั้งเกิดปัญหา อาจจะส่งผลให้ลูกค้าเกิดปัญหาในการทำงานได้ ดังนั้นโปรเจกต์ที่ดำเนินการร่วมกับ COSMOWAVE India ในครั้งนี้จึงเป็นโปรเจกต์ที่เรารับรู้ได้ถึงความสำคัญของ “ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน”
การให้การสนับสนุนผ่านทางออนไลน์เป็นเพียงเครื่องมือเสริมในการทำธุรกิจแต่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันแบบพบหน้ายังคงเป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจ
คุณ Nakamura: จากการทำโปรเจกต์นี้ทำให้ผมคิดอย่างถี่ถ้วนว่าควรจะแสดงความจริงใจอย่างไรกับฝ่ายตรงข้ามเพราะเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกดีนั้นแตกต่างกันและสิ่งเหล่านั้นนำไปสู่การดำเนินธุรกิจในครั้งใหม่ได้ สิ่งแรกที่ผมคำนึงถึง คือ การทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจและสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ โดยสไตล์การทำงานของ YN2 คือความสามารถในการสร้างความเชื่อใจและเราจะแนะนำคนไว้ใจได้เช่นกันเพราะพนักงานของเราตระหนักดีถึงการขยายวงกว้างในการติดต่อกันของผู้คน
เสริมสร้างและพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านวิศวกรสนามผ่านการร่วมมือกันของบริษัทพันธมิตร
หลังจากทำโปรเจกต์ออนไลน์ร่วมกับ COSMOWAVE ทำให้คุณ Nakamura รู้สึกว่าการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในการทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ
คุณ Nakamura: จากโปรเจกต์นี้ทำให้เราเข้าใจถึงข้อดีของช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้นซึ่งการดำเนินการผ่านทางออนไลน์และแบบพบหน้าต่างก็มีจุดแข็งที่แตกต่างกันจากจุดนี้เองทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้ควรจะดำเนินการรับมือต่อไปอย่างไรในอนาคต
สำหรับบริษัท YN2 มีสำนักงานในประเทศไทยแต่ไม่ใช่ผู้ผลิตที่ดำเนินการเหมือนโรงงานและเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเราจึงได้มีการจัดตั้ง CS เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทรัพยากรมนุษย์ โดยหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เราคาดว่าความต้องการด้านวิศวกรรมภาคสนาม (ในต่างประเทศ) จะเพิ่มขึ้นหลังจากมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางออนไลน์อย่างแน่นอน
คุณ Nakamura: โปรเจกต์นี้เป็นโอกาสที่ดีในการคิดเกี่ยวกับวิธีที่เราควรจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไรในอนาคต ซึ่งความต้องการของลูกค้าจะขึ้นอยู่กับเวลาและเงื่อนไขการทำงาน ดังนั้นความยืดหยุ่นในการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเราได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับหน่วย CS เพื่อให้พนักงานแต่ละคนสามารถดำเนินการขายและให้บริการที่ตรงกับช่วงเวลา สถานการณ์และแนวโน้มต่างๆ เพราะนิยามในการทำงานของเราคือ “คน” ซึ่งเราเชื่อว่าหากขยายขอบเขตความต้องการที่สามารถตอบสนองได้ด้วยการฝึกอบรมจะส่งผลให้โอกาสทางธุรกิจขยายตัวตามไปเช่นกัน
ปัจจุบันบริษัทกำลังทำงานในโครงการต่างๆ ร่วมกับบริษัทต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เม็กซิโก ตุรกี แอฟริกาใต้ อินเดีย จีนและญี่ปุ่น ภายใต้คติการดำเนินงานของลูกค้า บริษัทผู้จัดจำหน่าย ซัพพลายเออร์ (ผู้ผลิต) ที่จะต้อง WIN-WIN ทั้ง 3 ฝ่าย ทำให้เรายังคงกระตือรือร้นที่จะพัฒนาสาขาใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยการก้าวข้ามพรมแดนของประเทศและความต่างของเวลาที่ดำเนินไปตลอดจนแรงผลักดันของบริษัทที่จะยังคงเติบโตต่อไปด้วยพลังของมนุษย์ที่เปรียบเสมือนกับอาวุธการทำงานนั่นเอง